กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับ AI Governance ที่องค์กรต้องรู้

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของสังคม ตั้งแต่ธุรกิจ การแพทย์ การศึกษา ไปจนถึงหน่วยงานรัฐ อย่างไรก็ตาม การใช้ AI อย่างไม่มีการกำกับดูแลอาจนำไปสู่ปัญหาด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยของข้อมูล และอคติในระบบการตัดสินใจของ AI ด้วยเหตุนี้ หลายประเทศจึงออกกฎหมายและข้อบังคับเพื่อควบคุมการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ บทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจแนวทางการกำกับดูแล AI ในระดับสากล รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการที่องค์กรควรดำเนินการ เพื่อให้ AI ถูกใช้อย่างปลอดภัย โปร่งใส และเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมและผู้ใช้งาน

    ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจและชีวิตประจำวัน กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับ AI จึงได้รับการพัฒนาเพื่อกำกับดูแลการใช้งานให้เกิดความโปร่งใสและปลอดภัย หลายประเทศได้กำหนดแนวทางการควบคุม AI เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น อคติในระบบ AI การละเมิดความเป็นส่วนตัว และผลกระทบทางจริยธรรม AI Governance หมายถึง การกำกับดูแลการพัฒนาและใช้งาน AI ให้เป็นไปตามหลักจริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบต่อสังคม ปัจจุบัน องค์กรที่นำ AI มาใช้ต้องให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย โดยเฉพาะในด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความโปร่งใสของข้อมูล2. กฎหมายเฉพาะ เช่น EU AI Act, PDPA ของไทย

    เมื่อเทคโนโลยี AI ได้รับการพัฒนาและนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น หลายประเทศจึงออกกฎหมายเฉพาะเพื่อควบคุมการใช้งาน AI อย่างเป็นระบบ กฎหมายเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้น เช่น การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ความเสี่ยงด้านจริยธรรม และผลกระทบทางเศรษฐกิจ บทนี้จะกล่าวถึงกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแล AI ซึ่งองค์กรและผู้พัฒนา AI ควรทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม

    2.1 General Data Protection Regulation (GDPR) – สหภาพยุโรป

    GDPR เป็นกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ในสหภาพยุโรป มีเป้าหมายเพื่อปกป้องข้อมูลของประชาชนและกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลที่องค์กรต้องปฏิบัติตาม โดยเฉพาะบริษัทที่ใช้ AI ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    ● กำหนดให้บริษัทต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนเก็บรวบรวม ใช้ หรือแบ่งปันข้อมูล
    ● มีบทลงโทษสูงสุดถึง 20 ล้านยูโร หรือ 4% ของรายได้ทั่วโลก หากมีการละเมิด

    2.2 EU AI Act – กฎหมายว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์ของสหภาพยุโรป

    EU AI Act เป็นกฎหมายฉบับแรกที่กำกับดูแลการพัฒนาและใช้งาน AI โดยแบ่งประเภทความเสี่ยงของ AI ออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ :
    ● Unacceptable Risk (ความเสี่ยงสูงสุด) – ระบบ AI ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น การเฝ้าระวังมวลชน
    ● High Risk (ความเสี่ยงสูง) – AI ที่ใช้ในกระบวนการคัดเลือกบุคลากร การประเมินสินเชื่อ หรือการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
    ● Limited Risk (ความเสี่ยงปานกลาง) – AI ที่ใช้ในการโต้ตอบกับผู้ใช้ เช่น แชทบอท
    ● Minimal Risk (ความเสี่ยงต่ำ) – AI ที่ใช้ในการเล่นเกมหรือสร้างเนื้อหาดิจิทัล
    องค์กรที่พัฒนาและใช้งาน AI ในระดับความเสี่ยงสูงต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบและปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด

    2.3 PDPA (Personal Data Protection Act) – กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทย

    PDPA เป็นกฎหมายที่มีลักษณะคล้ายกับ GDPR ซึ่งกำหนดมาตรฐานการเก็บรวบรวม ใช้ และแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย โดยมีข้อกำหนดสำคัญ เช่น :
    ● องค์กรต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนดำเนินการใดๆ
    ● ต้องแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล (DPO) ในกรณีที่องค์กรมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมาก
    ● มีบทลงโทษทั้งทางแพ่ง อาญา และค่าปรับสูงสุด 5 ล้านบาทในกรณีที่มีการละเมิด

    องค์กรที่ใช้ AI ควรปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมายและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ โดยสามารถดำเนินการได้ ดังนี้ :

    3.1 ประเมินความเสี่ยงของ AI ในองค์กร

    องค์กรควรตรวจสอบว่า AI ที่ใช้มีความเสี่ยงในระดับใด และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ AI ที่มีผลต่อการตัดสินใจทางธุรกิจ เช่น
    การให้สินเชื่อ การคัดเลือกพนักงาน และระบบตรวจจับใบหน้า

    3.2 จัดทำนโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน

    ควรกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการใช้ AI อย่างชัดเจน เช่น มาตรการป้องกันอคติใน AI การจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย และแนวทางในการป้องกันการละเมิดสิทธิของผู้ใช้

    3.3 อบรมและให้ความรู้แก่พนักงาน

    องค์กรควรจัดอบรมเกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมายและจริยธรรมของ AI ให้แก่พนักงาน เพื่อให้พวกเขาสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้อย่างถูกต้อง

    3.4 แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล (DPO)

    ตามข้อกำหนดของ PDPA และ GDPR องค์กรที่ใช้ AI เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมากควรมีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลเพื่อดูแลและกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย

    3.5 ใช้เทคโนโลยีและมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

    ควรนำเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption) การตรวจสอบความปลอดภัย (Security Audits) และการออกแบบ AI ที่มีความรับผิดชอบมาใช้

    3.6 ติดตามและปรับปรุงตามกฎหมายใหม่ๆ

    กฎหมายเกี่ยวกับ AI มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้น องค์กรควรติดตามข่าวสารและปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา

    AI Governance เป็นประเด็นที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับ AI มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง องค์กรควรศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายสำคัญ เช่น GDPR, EU AI Act และ PDPA เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางกฎหมายและสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงาน การปรับตัวให้สอดคล้องกับข้อบังคับจะช่วยให้องค์กรสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานในระยะยาว

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AI Governance ได้ที่

    Tel. 097-979-5656

    Line ID: @greengrapes

    Leave a Comment

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

    Shopping Cart
    Scroll to Top